นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว)

แต่ละรุ่น...ดังที่ผมเคยแจ้งไปจะมี Signature ของแต่ละรุ่น
ถ้าติดตามการเสก และเราผูกพันจะรู้เป็นปัจจัตตังเองครับควรห้อยรุ่นไหน หรือตามที่ผมเคยแนะนำบางท่านไปแล้ว

 

ท่านใดได้พระไปแล้วนิมนต์อาราธนาเลยครับ ได้ผลอย่างไรแจ้งผมด้วยนะครับ

ผมเองก็มีความสามารถรีวิวได้เท่าที่โพสไป บางท่านก็มาช่วย ๆ กันบ้างจะดีใจมาก

ความลึกล้ำจากมวลสารที่บรรยายไปและการปลุกเสกระดับสุดยอดแห่งยุค ย่อมเกินกำลังที่เราจะประมาณอ่านกระแสได้

หากท่านใดมีประสบการณ์มาแนะนำบ้างจะดีใจมากครับ

 

การสร้างแต่ละรุ่นผมจะแต่งขันธ์5 บอกกล่าวครูบาอาจารย์ และหากเชื่อเรื่องฟ้าลิขิตก็จะไม่แปลกใจเลยครับ เพราะผมจะไม่มั่วยัดกล่องแบบเสกเหมารวมจับฉ่ายเด็ดขาด
ดังรุ่นนี้หลวงพ่อเงินแรงจัดท่านมาไม่ทันรอบวาระแรกแต่ก็นำมวลสารมาอุดภายหลังและหลวงพ่อเงินก็ได้เสกตามสายแนวทางท่านไป 3 ยก(ไม่นับอธิษฐานบอกกล่าวรูปหล่อที่วัดบางคลานนะครับ) มาเสกรวม 2 วาระท้าย
จึงจะมีข้อปลีกย่อยแตกต่างกัน ตามความชอบของเจ้าของพระกันไป

และที่สำคัญ มวลสารผมก็นำร่วมเสกไปด้วยครับ ไม่นับรุ่นครอบจักรวาลที่เน้นสายเมตตาก็มีมวลสารจำเพาะเจาะจงไปร่วมเสกด้วย

เพื่อเป็นพื้นฐานในรุ่นถัดไปเรียกว่ารวมมวลสารเงินทองสมปรารถนา+ครอบจักรวาลและหากรวม+มวลสารที่ได้มาเพิ่ม ก็จะเข้าสู่รุ่นถัดไปคือรุ่น สรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 50 % แล้วครับ...

 

ปสก.จากพี่มอไซ ทันตาครับ

 

วัดประดู่ทรงธรรม



ผงเกราะเพชรหลวงพ่อปาน







ผงหลวงพ่อกวยนี้ได้ขอหลวงปู่พระอริยเจ้าศิษย์หลวงพ่อกวยตรวจสอบให้แล้วครับ โดยเฉพาะผงมนต์พระกาฬว่าแท้แน่นอน555 (หลังจากรุ่นนี้ผมอาจได้มาอีกเพียบ)


ผมไม่กล้าบอกว่าจากพระพุทธรูปสำคัญองค์ใดบ้างเพราะไม่ได้เห็นกับตา แต่เอาว่าตกตะลึงได้เลยล่ะครับ


ชานหมากพระอริยเจ้า 104 ปี เคี้ยววันเสาร์ 5 และปลุกเสกให้อีก 3 วันบดเป็นผง

มวลสารสำหรับรุ่นถัดไปครับ รุ่น สรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งดำเนินการไปแล้ว 50 % แล้วครับ...

จริง ๆ ตั้งใจจะให้เป็นที่สุดแห่งปีนะ แต่ดูทรงแล้วอาจจะ อาจจะไม่ใช่ที่สุด ซึ่งอนาคตไม่แน่ไม่นอนครับ

รุ่นนี้รอพระไม้แกะยิงเลเซอร์ให้ครบถ้วนครับ ก็จะได้เริ่มดำเนินการถัดไป การปลุกเสกจะมีการรื้อฟื้นวิชาโบราณที่ผมได้เคยศึกษาเคยอ่านมาสมัยวัยรุ่น ผมได้ตามจนพบต้นกำเนิดแห่งตำนานวิชานี้แล้ว ประมาณการว่าวิชานี้สืบทอดมาแต่ยุคสุโขทัย!!!!!!!

ตอนนี้ผมเรียบเรียงร่างเรื่องราวไว้แล้ว 14 ตอนหากพระเสร็จเรียบร้อยปลุกเสกไปก็อาจมีมากกว่านี้รอให้เรียบร้อยก่อนครับ คงทันได้บูชาสิ้นเดือนพฤษภาคม...

 

มีเรื่องสมปรารถนาอย่างครับ

ดังที่ผมพบเจอการหล่อพระ ที่เจอโรงงานหล่อช้ามาก สั่งงานไปแล้วรอเป็นเดือนกว่าจะหล่อได้ ผู้ติดต่อให้บอก โรงหล่อมักเป็นเช่นนี้ชอบรับแต่งานใหญ่ งานน้อย ๆ ไม่สนใจเลยช้า สุดท้ายผมอธิษฐานขอให้เจอโรงหล่อดี ๆ มั่งเถอะที่เห็นเราสั่งงานน้อยแล้วทำให้เราเร็ว

และแล้วผมก็พบเจอจริง ๆ ผมสั่งงานน้อยไม่ถึงร้อยองค์ เขาก็ทำให้เร็ว ส่งชนวนมวลสารไปก็ยินดีหลอมให้จนหมด

 

ความคืบหน้าโครงการถัดไป คงเปิดบูชาปลายเดือนนี้ครับ





อุดผงวิเศษมวลสารศักดิ์สิทธิ์ด้านหลังนะครับ




อุดมวลสารเช่นกันครับ

รออุดมวลสารตามลงภาพ + กับผงสร้างรุ่นเงินทองสมปรารถนา(ปลุกเสกพร้อมพระ) และ+ ผงสร้างรุ่นครอบจักรวาล(ปลุกเสกพร้อมพระ) ก็คงแรงไม่น้อยกว่าที่สร้างมานะครับ..

แล้วผมจะมาโพสลงที่มา ประวัติการสร้าง และประวัติการได้มาของมวลสารให้อ่านกันครับ

 

1. เหตุใดจึงชื่อรุ่น สรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว ?

2. เหตุใดจึงสร้างเป็นรูปพระพุทธชินราชไม้พญางิ้วดำตายพราย ?

3. เหตุใดจึงสร้างเป็นพระอุ้มบาตร เนื้อชนวนมวลสารอะไร ?

4. เหตุใด จึงมีมวลสารระดับตำนานมาในรุ่นนี้ ?

ทุกคำตอบล้วนเกี่ยวเนื่องกันครับ จะเปิดเผยมาในเร็ววันนี้ หลังปลุกเสกเสร็จ น่าจะมีบทความประมาณ 14 ตอนครับ...

ปลายเดือนนี้นะครับพบกันไม่ต้องจองครับ ได้แน่นอน...

 

วันหยุดเล่นงานผมซะแล้วครับ ขนส่งเอกชนช้ามาก จากที่คิดว่าจะได้พระพุทธชินราชมาอุดผง โทรตามทุกวันเลยครับ วันนี้ยังไงถือฤกษ์วันที่ 9 ข้างขึ้น ลงตอนแรกเลยละกันครับ

 

ปฐมบท รุ่น สรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว

หลังจากผมได้จัดสร้าง รุ่นเงินทองสมปรารถนาไปแล้ว ภาระการงานต่างๆ ก็ราบรื่น ได้ทำบุญหลายๆ ที่จนอิ่มอิ่มใจไปเต็มที่ ครูบาอาจารย์ที่เมตตาก็มอบมวลสารมาให้มากมายจนผมตกใจ จึงขอเริ่มปฐมบทโครงการนี้ที่มีการรื้อฟื้นตำนานเก่า ๆ และมวลสารเก่า ๆ ที่ผมเคยได้ยินได้ฟังมารวมในรุ่นนี้ด้วย เรียกว่าต้องรื้อความทรงจำสมัยวัยรุ่นกันเลย

ตอนที่ 1 ปฐมบท รำลึกความหลัง

...ในคืนนึง ผมได้หลับฝันเห็นหลวงพ่อพระพุทธชินราช ในฝันผมนึกออกว่าเคยกราบท่าน 2 ครั้งได้สมัยเรียนจบทำงานใหม่ๆ สมัครทัวร์สายบุญไป แต่ก็ไม่ได้ผูกพันอะไรกับท่านมากนัก ทั้งที่ประวัติตำนานต่างๆ ของท่านก็เรียกว่าสุดยอดระดับประเทศเช่นกัน หลังตื่นขึ้นมาก็พิจารณาว่า อาจถึงวาระให้เกี่ยวข้องกับท่านแล้วหนอเรา

ไม่นานนัก ผมก็ได้มวลสารระดับสุดยอดจากครูบาอาจารย์มาเพิ่ม คือ ผงปูนกะเทาะจากการบูรณะพระพุทธรูปสำคัญระดับประเทศหลายองค์ ก็เลยรู้ว่าแบบนี้นี่เอง ฝันที่เป็นจริง ถ้าเป็นสมัยก่อนคงดีใจขนาดจนร้องลั่นบ้าน แต่ตอนนี้ได้มาหลายอย่างจนเริ่มปรับตัวได้ 555

 

ร้านแกะส่งมาตั้งแต่วันจันทร์ รอหลายวันพระมา ได้อุดวันที่ 9 เลยครับ

 

ตอนที่ 2 รื้อฟื้นตำนานเกราะเพชร

...ผมได้อ่านเว็บพระไปเรื่อยในยามเบื่อ จนเห็นเรื่องพระหลวงพ่อปาน เลยคุยกับคนใกล้ชิดว่าในชีวิตเคยมีโอกาสได้เห็นพระหลวงพ่อปานแท้ๆ ครั้งนึง สมัยเที่ยวกับหลวงตาท่านหนึ่งไปจนถึงวัดที่เมืองกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดนึงเป็นเพื่อนสนิทกับหลวงตา หยิบพระหลวงพ่อปานให้ชม จำไม่ได้พิมพ์ขี่อะไร แต่รู้ว่าราคาเช่าหาสมัยนั้นคือ 5 หมื่น สมัยนี้คงไม่ต้องพูดถึง ผมยังเสียดายว่ารู้จักพระที่สนิทกับหลวงตาท่านนี้ซึ่งอยู่วัดบางนมโคท่านนึง ไม่เคยสอบถามผงหลวงพ่อปานมีอยู่ไหม ตะก่อนก็ปฏิบัติธรรมด้วยกันช่วงเข้าพรรษา แม้เคยได้ยินว่ามีผงหลวงพ่อปานตกทอดมาบางวัดจะไปสืบหาก็ไม่พบแล้ว ไม่นานนักครูบาอาจารย์ท่านนึงรู้ว่าผมอยากได้ก็เลยจัดให้ ตามภาพ ก็ดีใจมาก สมดังสำนวนนิยายจีนว่า “เหยียบย่ำจนรองเท้าสึกไม่พบพาน ยามได้มากลับไม่ลำบากยากเย็น”

 

อุดผงครบถ้วน เรียบร้อย...

 

ตอนที่ 3 คุณแม่มาโปรด

...ต่อมาไม่นานนัก กระแสคุณแม่บุญเรือนมาแรง จนหลายวัดนิยมสร้างพระพุทโธน้อยกัน ครูบาอาจารย์คงกลัวผมเหงาเลยจัดผงพระพุทโธน้อยแตกหัก กับผงกรุบางขุนพรหมมาให้แก้เหงา และมอบศิลาน้ำไว้ทำน้ำมนต์กับพลอยเสกคุณแม่มาให้ด้วย พลอยเสกท่านบอกเป็นเคล็ด “พลอยได้ พลอยดี” ผมก็ว่าพลอยเสกไว้บรรจุสร้างพระละกัน









ในองค์พระกับด้านหลังเหรียญพญางิ้วดำพระพุทธชินราชบรรจุพลอยเสกคุณแม่

 

ตอนที่ 4 รื้อฟื้นตำนาน ศัตรูกลับใจเป็นมิตร

...ผงหลวงปู่ไข่ วัดเชิงเลนกับผงอาจารย์ท่านอีกทีครับ ศัตรูกับใจเป็นมิตร ผสมรวมกัน

 

ตอนที่ 5 หลวงพ่อกวยมาช่วยศิษย์

...อาจเพราะผมทำบุญกับศิษย์หลวงพ่อท่านบ่อย ท่านเลยเมตตามอบผงรวม 4 ประการมาให้ ผมได้นำไปขอหลวงปู่อริยศิษย์ท่านพิจารณา ท่านรับว่าเป็นของจริงตรงที่ท่านเคยได้มาสมัยเป็นฆราวาสและไปเรียนกับหลวงพ่อกวยมาโดยตรง

 

ตอนที่ 6 พระพุทธชินราช และฟื้นตำนานนะฉัพพรรณรังสี

...คืนนึงผมฝันเห็นพระพุทธชินราชและมีรัศมีออกมาจากองค์พระหลายสีมาก สุดท้ายตื่นมาครูบาอาจารย์แจ้งมาว่าจะมอบผงนะฉัพพรรณรังสีของวัดประดู่ทรงธรรมมาให้ อีกทั้งผสมผงพระขุนแผนวัดใหญ่ชัยมงคลแตกหักที่พระนเรศวรท่านสร้างไว้ด้วย ซึ่งพระขุนแผนนี้พิมพ์จริง ๆ ก็น่าจะจำลองจากพระพุทธชินราช (มีซุ้ม) ผมพิจารณาคงถึงเวลาแล้วล่ะ ถ้าทำเฉยอีกอาจมีเรื่อง

...ทนกระแสพลังท่านไม่ไหว เลยสอบถามร้านแกะว่ามีไม้งิ้วดำตายพรายไหม ทางร้านแจ้งว่าพึ่งได้มาพอดี ศักดิ์สิทธิ์มาก ก็ดูแบบและอักขระยันต์ที่ยิงเลเซอร์ก็ยันต์ที่ลงแหวนอสนีบาตพิฆาต ก็ราบรื่นเข้มขลัง









ด้านหลังอุดผงวิเศษกับพลอยเสกคุณแม่บุญเรือนครับ เป็นเคล็ด "พลอยได้ พลอยดี"

 

ตอนที่ 7 ทุกสรรพสิ่งรวมเป็นหนึ่ง

หลังได้ผงวิเศษมามาก คืนนึงผมฝันเห็นพระพุทธวางพระหัตถ์ที่บาตร มีเสียงบทสวดที่ไม่เคยได้ยิน ผมแปลไม่ออกคิดในใจบทสวดอะไร ก็มีเสียงที่มีอำนาจดังออกมาว่า “ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียว” มานั่งค้นความฝัน เลยรู้ว่านั่นคือพระปางประสานบาตร ตามตำนานพระพุทธเจ้าประสานบาตรท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ใบรวมเป็นหนึ่งเดียวและคาถาพระพุทธเจ้าประสานบาตร ก็คลับคล้ายตรงกับในฝัน

จากนั้นผมก็เลยพบพิมพ์พระปางอุ้มบาตรสวยดี อาจไม่ตรงกับฝันเป๊ะ ๆ ก็พอกล้อมแกล้มได้ยังไงก็พระพุทธเจ้าองค์เดียวกันเนอะ55 เลยสั่งโรงหล่อทำขึ้นมา และส่งชนวนมวลสารไปร่วมหล่อด้วยอันประกอบด้วย

1. เม็ดชนวนจากการหล่อหรมานประลัยกัลป์ (หนุมาน) ซึ่งชนวนมวลสารคงไม่ต้องพูดถึง แผ่นทองหุ้มพระธาตุพันปีหลายแผ่น แผ่นนาคหุ้มพระธาตุ แผ่นจารสารพัด ชนวนแหวนมหาชะตาฯลฯ ที่สำคัญชนวนนี้ร่วมเสกพร้อมหนุมานด้วย และผมได้นำเข้าพิธีอีกหลายพิธี

2. แหวนอสนีบาตพิฆาต ได้นำเสกเพิ่มเติมอีกหลายวาระ

3. เม็ดเงินแท้ ได้ร่วมเสกอีกหลายวาระ
การหลอมชนวนก็ถูกต้องแน่นอนชัดเจน พร้อมให้ช่างเจาะรูใต้ฐานไปด้วยไว้อุดมวลสาร (มีคลิปแต่ยาวมากเลยลงเป็นภาพแทน)

 

พระครูอุดมขันติธรรม (ครูบาขันแก้ว อุตตโม) วัดสันพระเจ้าแดง
(ป่ายาง) ต.ห้วยยาบ อ.บ้านธิ ลำพูน

ความเกี่ยวพันของพระขรรค์ไชยศรีหรือดาบสหลีกัญชัยในอดีตชาติของหลวงปู่ขันแก้ว

ในปี พ.ศ. ๒๔๗๐ ครูบาศรีวิชัยได้เข้านิโรธสมาบัติที่ถ้ำเชียงดาว และไปได้ตำราเล่มหนึ่งมาจากถ้ำเทวดาซึ่งเป็นถ้ำเล็กๆ อยู่ในถ้ำเชียงดาว โดยพระยันต์นี้บรรจุอยู่ในกระบอกไม้ไผ่ ภายในกระบอกไม้ไผ่นั้นมีกระบอกเงินซ้อนอยู่อีกทีหนึ่ง ภายในกระบอกเงินมีแผ่นทองคำจารึกพระยันต์ที่ใช้ ลงพระขรรค์ไชยศรีและดาบสหลีกัญชัย ของ พ่อขุนผาเมือง จารึกตัวยันต์ดาบ,โองการเสกยันต์ดาบ,โองการพญานามนต์อาราธนาสิ่งศักดิ์สิทธ์และวิธีใช้ ซึ่งเป็นของคู่เจ้าเมืองหรือกษัตริย์ เปรียบค่าดังทองคำประดับมณีรัตนาอันมีค่า จนเลื่องลือกันไปว่าครูบาศรีวิชัยได้ดาบทองคำของกษัตริย์ประดับอัญมณีแต่เก็บไว้เป็นส่วนตัวไม่ยอมมอบให้ทางราชการ จนเป็นสาเหตุหนึ่งทำให้ต้องอธิกรณ์ แต่ภายหลังก็พ้นผิด จนถึงกับทำให้ครูบาศรีวิชัยต้องลั่นวาจาว่า “ จะไม่กลับไปยังเชียงใหม่อีก หาก (แม่) น้ำปิงไม่ไหลย้อนกลับ (ไปทางเชียงใหม่) ” และท่านครูบาศรีวิชัยก็ไม่กลับไปเชียงใหม่อีกจนมรณภาพที่จังหวัดลำพูน

เหตุที่ยันต์ดาบสหลีกัญชัยมาตกอยู่ที่ภาคเหนือ ก็เพราะพ่อขุนผาเมืองได้มอบตำราและพระเวทย์ที่ใช้กับพระขรรค์ไชยศรีให้ไว้กับพ่อขุนเม็งรายซึ่งเป็นศิษย์ของท่านจึงได้ตกมาอยู่ที่เมืองเหนือ จนถึงสมัยครูบา ศรีวิชัยได้เดินธุดงค์ไปที่ถ้ำเชียงดาว ซึ่งใครเป็นผู้นำมาเก็บซ่อนก็ไม่อาจจะรู้ได้

ครูบาศรีวิชัยได้มอบตำรายันต์นี้ให้กับครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุย ลูกศิษย์ของท่าน และบอกว่า “ ให้ตุ๊น้องชุ่มเก็บรักษาตำรายันต์ดาบสรี๋กัญชัยนี้ไว้ เมื่อตุ๊น้องเจอเจ้าของยันต์ดาบนี้ในอนาคตตุ๊น้องก็จงนำไปมอบให้เขา แต่ถ้าเจ้าของเขาไม่เอาก็จงทำลายตำรานี้ทิ้งเสีย เพราะมันเป็นดาบสองคม เพราะว่ามีคุณอนันต์ มันก็มีโทษมหันต์เช่นกัน ” โดยที่ครูบาศรีวิชัยและครูบาชุ่มก็มิได้สร้างทั้งตะกรุดและดาบสหลีกัญชัยไว้

ต่อมาหลวงปู่ครูบาชุ่มได้มอบ ตำรายันต์ลงดาบสหลีกัญชัย (ประกอบด้วย 1. ตัวอักขระยันต์ดาบ 2. โองการพระเวทย์ 3. คาถาเสกดาบ และ 4. คาถากำกับวิธีใช้ดาบ) ตำราทำตะกรุดลูกหนังควายเผือกตายในท้องแม่ และตำราลงยันต์นากคอคำ ๓ ชุด ให้กับหลวงปู่ขันแก้ว และได้กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเปิ้น (หลวงปู่ขันแก้ว) ที่จะต้องทำตะกรุดและดาบสหลีกัญชัยและมีดพระขรรค์สหลีกัญชัย และได้บอกตามครูบาเจ้าศรีวิชัยที่ได้สั่งไว้ว่า " ต่อไปภายหน้า ถ้าลูกศิษย์เป็นคนดี มีความกตัญญูกตเวที ก็ให้ทำยันต์ดาบนี้แก่ลูกศิษย์ แต่ถ้าลูกศิษย์ไม่มีความกตัญญูก็ให้ทำลายตำรายันต์ดาบนี้ทิ้งเสีย เพราะว่ายันต์นี้มีคุณอนันต์ก็มีโทษมหันต์ "

ในส่วนบันทึกของครูบาขันแก้วท่านระบุว่า ตำราว่ายันต์ ดาบสะรี๋กัญชัยด้ามแก้ว นี้ ได้มาจากเมืองปาฎาลิบุตร...?..

ในเมืองนครศรีธรรมราชก็มีเมืองชื่อ ปาฎาลิบุตร เช่นกัน ดังเช่นชื่อ พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ก็คล้ายกับชื่อ พระเจ้าอโศกมหาราช แห่งอินเดีย (พ.ศ.240-พ.ศ.312) แต่ความจริงแล้วเมืองปาฎาลิบุตรที่จะกล่าวถึงนี้คือเมืองปาฎาลิบุตรคาม ประเทศอินเดีย ปกครองโดยพระเจ้าอโศกมหาราช และหลังฐานที่ว่า พระบรมธาตุวัดป่าสัก เมืองเชียงแสน อ.เชียงแสน (ใกล้กับวัดเจดีย์หลวง อ.เชียงแสน)ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากเมืองปาฎาลิบุตร ประเทศอินเดีย นั่นก็หมายความว่าตำราดาบสรี๋กัญชัยนี้มีการสืบทอดมานานมาก อาจจะย้อนกลับไปในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชก็ว่าได้ และตำรานี้ก็คงตกทอดมาจนถึงสมัยพ่อขุนผาเมือง สืบทอดให้หลานท่านคือ พ่อขุนเม็งรายมหาราช แล้วได้หายสาบสูญไป จนกระทั่งครูบาเจ้าศรีวิชัยเข้าไปพบที่ถ้ำเชียงดาว เลยทำให้รู้ว่า ยันต์ดาบสรี๋กัญชัยด้ามแก้ว ที่ครูบาขันแก้วสร้างนี้คือต้นฉบับที่แท้จริงที่สืบทอดมาแต่โบราณ

พุทธคุณ ยันต์ดาบสรี๋กัญชัยด้ามแก้วนี้เป็นของสูงค่าประมาณมิได้ ท่านว่าถ้าลงไว้ที่ดาบหรือพระขรรค์จักเป็นตัวแทนแห่งอาวุธของพระพุทธเจ้า จะเข้ารบสงครามใดก็จะชนะไม่ว่าผู้นั้นจะมีคาถาอาคมที่หนังเหนียวสักเพียงใด ก็ง่ายเหมือนฟันหยวกกล้วยอ่อน ผู้ที่มีอำนาจจิตที่สูง (กับคาถาบางบท) สามารถทำการประหารศัตรูที่อยู่ห่างไกลสักเพียงใดก็ตามให้ตายได้ในพริบตาประหนึ่งเหมือนอยู่ตรงหน้า

แลผู้ใดได้ครอบครองพระยันต์หรือตะกรุดลูกนี้และทำการบูชาด้วยความเคารพนอบน้อมขึ้นชื่อว่าเป็นผู้บุญหนักศักดิ์ใหญ่ ผู้ที่บูชาพระยันต์ดาบสรี๋กัญชัยนี้ทุกวันแล้วไซร้จักทำให้ครอบครัวเป็นสุข ภูตผีใดไม่กล้ากล้ำกลาย เดินทางไปไหนผู้คนเคารพยำเกรง คนที่คิดร้ายแก่เราจักแพ้ภัยตนเอง เป็นสง่าราศีแก่คนทั้งหลาย เป็นที่รักและเคารพทั้งมนุษย์และเทวดา ทำการใดๆ จะสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณคนทั้ง 1,000 ภาษา อยู่ที่ใดจักจำเริญที่นั่น ที่ใดตกต้องอาถรรพ์ก็ให้ทำน้ำพระพุทธมนต์รดที่นั้น อาถรรพ์ต่างๆ ก็มลายหายสิ้น ยันต์ดาบสรี๋กัญชัยด้ามแก้วนี้พุทธคุณเป็นประจักมีมานาน สืบทอดมาแต่โบราณอานุภาพมากใช้ได้ 1,000 ช่องสุดแล้วแต่อธิษฐานแล......

ในวันเสาร์ ๕ ที่ ๒ เมษายน ๒๕๒๖ หลวงปู่ขันแก้วได้ลงตะกรุดยันต์ดาบสหลีกัญชัยรุ่นพิเศษ (รุ่นแม่ทัพธรรม) ดอกใหญ่กว่าทุกรุ่นไว้ ๑ ชุดและได้ลงตะกรุดในแบบต่างๆ ให้กับคุณหมอสมสุขไว้ เรียกว่า “ ทำอย่างชนิดทิ้งทวน ”

หลวงปู่ขันแก้ว ท่านตื่นจากจำวัดเวลาประมาณ ๐๕.๐๐ น. ตะกรุดต่างๆ ได้ลงเสร็จแล้วในตอนกลางคืน คือ ทำล่วงหน้าไว้หลายอย่าง แต่เฉพาะตะกรุดสหลีกัญชัยดอกใหญ่รุ่นแม่ทัพธรรมนี้ ท่านได้ลงเมื่อรุ่งเช้าของวัดเสาร์ ๕ ที่ ๒ เมษายน ๒๕๒๖ เมื่อแสงทองขึ้นจากขอบฟ้าและเห็นเส้นสายลายมือหลวงปู่ท่านลงจนเสร็จหมดทุกดอก

และหลังจากฉันภัตตาหารเช้าแล้ว หลวงปู่ท่านสั่งให้นำมงคลวัตถุทั้งหมดที่ได้เตรียมไว้ขึ้นไปทำพิธีใหญ่ปลุกเสกเดี่ยวบนพระวิหารในตอนเช้า และในตอนค่ำหลวงปู่ได้นำไปเข้าร่วมในพิธีการเบิกพระเนตรปลุกเสกอนุสาวรีย์พระนางจามเทวี ที่จังหวัดลำพูน

ตอนที่กำลังปลุกเสกดาบและตะกรุด คุณหมอสมสุขได้ถามหลวงปู่ขันแก้วเกี่ยวกับที่มาที่ไปของความเกี่ยวพันกับหลวงปู่ขันแก้ว โดยถามหลวงปู่ว่า
ดาบสหลีกัญชัยกับพระขรรค์ไชยศรีของพ่อขุนผาเมืองมีความเกี่ยวกันใช่ไหม
หลวงปู่ตอบว่า แม่น (หมายถึง มีความเกี่ยวกัน)
คุณหมอได้ถามต่อว่า
ตำราลงยันต์ดาบสหลีกัญชัยก็ลงพระขรรค์ไชยศรีเป็นของพ่อขุนผาเมืองใช่ไหม
หลวงปู่ตอบว่า แม่น
ถ้าอย่างนั้นยันต์ดาบสหลีกัญชัยก็เป็นของพ่อขุนผาเมืองใช่ไหมครับ
หลวงปู่ก็ตอบว่า แม่น
คุณหมอสมสุขก็ถามต่อว่า
ที่มาตกอยู่เมืองเหนือก็เพราะได้มอบตำราไว้กับพ่อขุนเม็งรายใช่ไหมครับ
หลวงปู่ก็ตอบว่า แม่น (เพราะรู้ว่ากรุงสุโขทัยรักษายันต์ดาบนี้ไว้ไม่ได้ จึงได้ให้เก็บไว้ทางเมืองเหนือ เพื่อรอผู้เป็นเจ้าของมาทำในอนาคต)
คุณหมอสมสุขเห็นโอกาสก็เลยถามว่า ที่หลวงปู่ครูบาบุญชุ่มบอกว่าเป็นหน้าที่ของเปิ้น คือ หลวงปู่ขันแก้ว ก็แสดงว่าหลวงปู่เป็นเจ้าของยันต์ดาบสหลีกัญชัยในอดีตชาติและเป็นเจ้าของพระขรรค์ไชยศรีด้วยใช่ไหมครับ
หลวงปู่ขันแก้วท่านก็พยักหน้ารับต่อหน้าผู้ที่ร่วมนั่งฟังอยู่หลายคน มีคุณวันชัย แก้วทับทิม คุณบุญทอง อมรทวีชัย และหลานหลวงปู่ในวันนั้น หลวงปู่ขันแก้วท่านยังกล่าวกับคุณลุงหมอและคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโกว่า ถ้าหากไม่มีความกตัญญูต่อหลวงปู่ครูบาบุญชุ่มและหลวงปู่ขันแก้วก็ให้ทำลายตำรายันต์เสีย
แต่หลวงปู่ได้เห็นแล้วว่าโยมหมอและคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก มีความกตัญญู กตเวทิตาจริง จึงได้นำออกมาทำให้กับคณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก เพื่อให้ได้รู้เรื่องความเป็นมาในอดีตของ “ พระขรรค์ชัยศรี หรือ ดาบสหลีกัญชัย ”

ในวันเสาร์ ๕ ที่ ๒ เมษายน ๒๕๒๖ หลวงปู่ยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า..ยันต์ดาบดาบสหลีกัญชัยนี้เป็นพญายันต์ ห้ามนำไปใช้ในทางที่ผิดหรือใส่ไว้กับตะกรุดอื่นๆ (คือมีผู้จะเอาไปใส่ไว้ในตะกรุดลูกหนังควายเผือก) มีพุทธคุณทางป้องกันภัย มีอำนาจทำให้คนเกรงกลัวกันพวกคุณไสยต่างๆ มีอยู่กับตัวหรือหรือบ้านจะเป็นมงคล

#อุปเท่ห์ ผู้ใดได้ครอบครองดาบหรือตะกรุดนี้จะทำให้มีอำนาจตั่งอาญาสิทธิ์แห่งพระมหากษัตริย์สามารถปราบภูตผี ปีศาจ และคุณไสยได้ ทำให้เกิดความร่มเย็นแก่ตัวเองและครอบครัว และก่อให้เกิดเมตตามหานิยมอย่างหาที่สุดไม่ได้ แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง ไม่ว่าจากภัยธรรมชาติหรือภัยมนุษย์ ที่สำคัญ คือ แม้แต่จะทำร้าย (ฆ่า) คนก็ยังทำได้ (หลวงปู่ท่านพูดเอง แต่หลวงปู่ขันแก้วท่านมิได้มอบคาถาที่ใช้ฆ่าคนเนื่องจากเป็นบาป)

ยันต์ดาบนี้เป็นพญาแห่งยันต์ไม่ควรเอาไว้ในที่ต่ำหรือกล่าวคำลบหลู่ และที่สำคัญผู้ที่ไม่มีบุญญาธิการที่สืบทอดถ้าสร้างหรือแอบอ้างในการทำดาบจะทำให้เกิดภัยต่างๆ นาๆ ไม่ใช่แค่ตัวเองแต่รวมไปถึงครอบครัวด้วยจะทำไห้เกิดความเป็นไปต่างๆ นานา

#ข้อห้าม ท่านบอกว่า ยันต์นี้เหนือกว่ายันต์ทั้งปวง ห้ามบูชาต่ำกว่ายันต์อื่นห้ามหญิงมีประจำเดือนจับต้องหรือแขวนบูชา

Cr. ข้อมูลจากคุหมอสมสุข คงอุไร คณะรัศมีพรหมโพธิโก